テオ (Teo) – แปลไทยโดย Yumi-chan

 

 

Omoi feat. Hoshino Ichika & Hatsune Miku 

SubThai Ver. ( MV เวอร์ชันรสนิยมส่วนตัว 55)

 

 GALLERY⇓

 
 
考える
Kangaeru

คิดวกวน

このままいつまで 隠しておけるかな
Kono mama itsu made kakushite okeru kana

ว่าจะปกปิดแบบนี้ไปได้อีกนานเท่าไหร่

帰りたくなった時 さよならは言えるかな
Kaeritaku natta toki sayonara wa ieru kana

เวลาที่ไม่อยากกลับไป จะสามารถพูดว่า “ลาก่อน” ได้ไหมนะ

見落としたあの日のサインが 少しずつ溶けても
Miotoshita ano hi no sain ga sukoshizutsu toketemo

แม้ป้ายบอกทางที่มองข้ามไปวันนั้น จะเริ่มซีดจางอย่างช้าๆ

きっと大丈夫だよ こうやって僕らまた逢えるから
Kitto daijoubu da yo kou yatte bokura mata aeru kara

แต่มันจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน เพราะเรายังพบกันได้แบบนี้ไง

目を閉じる
Me wo tojiru

หลับตาลง

小さな祈りは まだ残せるかな
Chiisana inori wa mada nokoseru kana

คำอธิษฐานอันริบหรี่นี้ ยังเก็บมันไว้ได้ไหมนะ

光が戻ったとき ただいまは言えるかな
Hikari ga modotta toki tadaima wa ieru kana

เวลาที่แสงสว่างกลับมา จะสามารถพูดว่า “ฉันกลับมาแล้ว” ได้ไหมนะ

行かなくちゃ
Ikanakucha

ต้องไปแล้วล่ะ

世界で一番 綺麗なものなら
Sekai de ichiban kirei na mono nara

หากเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดบนโลกนี้แล้วล่ะก็

今まで奪われてた分は
Ima made ubawareteta bun wa

สิ่งที่โดนแย่งไปทุกอย่าง

取り戻すまでさ!
Torimodosu made sa!

แค่ไปเอาคืนกลับมา!

もっと
Motto

มากกว่านี้

クラクラクラ クラクラさせてよ
Kurakurakura kurakura sasete yo

ทำให้ฉันมึนเมาด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนี้ทีเถอะ

ユラユラユラ ゆらぎを見せてよ
Yurayurayura yuragi wo misete yo

ให้เห็นใจที่สั่นไหว โคลงเคลงไปมานั่นทีเถอะ

キラキラキラ きらめいていてよ
Kirakirakira kirameiteite yo

ให้เฉิดฉาย เป็นประกายต่อไปด้วยเถอะ

そっと
Sotto

ลองเรียกหา

傷ついた夜を呼び出してみる
Kizutsuita yoru wo yobidashite miru

ค่ำคืนที่เจ็บช้ำอย่างแผ่วเบา

ささやかな魔法をひとつかける
Sasayaka na mahou wo hitotsu kakeru

แล้วร่ายเวทสั้นๆสักบท

それだけで僕らは飛べるのさ!
Sore dake de bokura wa toberu no sa!

เพียงเท่านี้พวกเราก็โบยบินได้แล้ว!

離さないでよ! 眼差しを
Hanasanaide yo! manazashi wo

ได้โปรด! อย่าละสายตา

僕達はもう 止まらないよ
Boku tachi wa mou tomaranai yo

เพราะพวกเราไม่มีทางหยุดอีกต่อไป

魔法が解ける それまで
Mahou ga tokeru sore made

จนกว่าเวทมนตร์ที่ร่ายไว้จะคลายลง

繋いでいてよ 手を
Tsunaideite yo te wo

ได้โปรดจับมือฉันไว้

手を!
Te wo!

จับมือฉัน!

ひとつだって残さない
Hitotsu datte nokosanai

จะไม่หลงเหลือสิ่งใดไว้

全てを取り戻すだけさ
Subete wo torimodosu dake sa

แค่เอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา

魔法が解ける それまで
Mahou ga tokeru sore made

จนกว่าเวทมนตร์ที่ร่ายไว้จะคลายลง

繋いでいてよ 手を 手を
Tsunaideite yo te wo te wo

ได้โปรดจับมือฉันไว้ จับมือฉัน

手を!
Te wo!

จับมือฉัน!

「何も罪を犯さないなんて どだい無理です
“Nani mo  tsumi wo okasanai nante dodai muri desu

“มันเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่แรก ที่คนเราจะไม่ก่อบาปใดใดเลย

ですから それをせめて隠しておくことを
Desukara sore wo semete kakushite oku koto wo

ด้วยเหตุนี้ การที่อย่างน้อยเราก็ปกปิดมันไว้

私達は 誠実と 呼ぶことにしました」
Watashi tachi wa sejitsu to yobu koto ni shimashita”

พวกเราเรียกการกระทำเช่นนี้ว่า ความซื่อสัตย์”

今まで奪われてた分は
Ima made ubawareteta bun wa

สิ่งที่โดนแย่งไปทุกอย่าง

取り戻すまでさ!
Torimodosu made sa!

แค่ไปเอาคืนกลับมา!

そっと
Sotto

ลองเรียกหา

傷ついた夜を呼び出してみる
Kizutsuita yoru wo yobidashite miru

ค่ำคืนที่เจ็บช้ำอย่างแผ่วเบา

ささやかな魔法をひとつかける
Sasayaka na mahou wo hitotsu kakeru

แล้วร่ายเวทสั้นๆสักบท

それだけで僕らは飛べるのさ!
Sore dake de bokura wa toberu no sa!

เพียงเท่านี้พวกเราก็โบยบินได้แล้ว!

もっと!
Motto!

ยิ่งกว่านี้!

クラクラクラ クラクラさせてよ
Kurakurakura kurakura sasete yo

ทำให้ฉันมึนเมาด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านนี้ทีเถอะ

ユラユラユラ ゆらぎを見せてよ
Yurayurayura yuragi wo misete yo

ให้เห็นใจที่สั่นไหว โคลงเคลงไปมานั่นทีเถอะ

キラキラキラ きらめいていてよ
Kirakirakira kirameiteite yo

ให้เฉิดฉาย เป็นประกายต่อไปด้วยเถอะ

離さないでよ! 眼差しを
Hanasanaide yo! manazashi wo

ได้โปรด!อย่าละสายตา

僕達はもう 止まらないよ
Boku tachi wa mou tomaranai yo

เพราะพวกเราไม่มีทางหยุดอีกต่อไป

魔法が解ける それまで
Mahou ga tokeru sore made

จนกว่าเวทมนตร์ที่ร่ายไว้จะคลายลง

 
繋いでいてよ 手を
Tsunaideite yo te wo

ได้โปรดจับมือฉันไว้

手を!
Te wo!

จับมือฉัน!

ひとつだって残さない
Hitotsu datte nokosanai

จะไม่หลงเหลือสิ่งใดไว้

全てを取り戻すだけさ
Subete wo torimodosu dake sa

แค่เอาทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนมา

魔法が解ける それまで
Mahou ga tokeru sore made

จนกว่าเวทมนตร์ที่ร่ายไว้จะคลายลง

繋いでいてよ 手を 手を
Tsunaideite yo te wo te wo

ได้โปรดจับมือฉันไว้ จับมือฉัน

手を!
Te wo!

จับมือฉัน!

 

 

 

คอมเมนต์ผู้แต่งเพลง

不屈の歌です。
Fukutsu no uta desu

บทเพลงแห่งการต่อสู้

 

 

 

บันทึก Event WxS_Emu Banner “แฮปปี้เอนด์ของพวกเรา”

คำเตือน!!!!
  • บันทึกนี้เต็มไปด้วยการสปอยล์ สปอยล์ และสปอยล์ ใครยังไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องอีเวนต์ WxS ทุกเรื่องมาก่อนอาจโดนสปอยล์ได้
  • Yumi-chan ว่าจะ ‘เขียน’ อย่างเดียว แต่มีช่วงนึงที่ Yumi-chan บันทึกในรูปแบบวิดีโอด้วย
  • บันทึกนี้ มีการตัดทอน ย่อเนื้อหา (เอามาแต่เฉพาะที่ Yumi-chan จะหวีด?55) เพราะงั้น ใครสนใจแล้วยังไม่เคยอ่านเนื้อเรื่องอีเวนต์ก็แนะนำเลย
ใครที่ OK ก็มาร่วมหวีดด้วยกันได้เลย!!
ตัว Yumi-chan ที่คิดไว้ว่า ถ้าไม่ใช่อีเวนต์ของรุย ก็ต้องเป็นอีเวนต์สึคาสะแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ(←ความเอนเอียงจากความต้องการส่วนตัวล้วนๆ) ปรากฏว่าเป็นอีเวนต์เอมุจางงงงงงงงงงงงง น้องตอนเด็กปุ็กปิ๊กไปไหน(แล้วไอกระเป๋าสะพายน้องไก่นั่นคือ พลัสความปุ๊กปิ๊กไปอีก)
 

(สรุปว่าการที่ seiyuu เอมุจังมาในรายการ Wondershow Channel#34 แล้วได้รับหน้าที่อ่านคอมเมนต์เพลงของ nyanyannya (Daitensai_P) ก็เพราะอย่างนี้เองสินะ แล้วจำได้ว่าเสียง seiyuu ก็ตะมุตะมิเวอร์)

พอมาดูชื่ออีเวนต์ “Happy end ของพวกเรา”←…Happy end!! แสดงว่าหลังจากอีเวนต์ช่วงหลังๆมาที่ดูเค้าลางว่า WxS จะยุบตัวแล้วไปทางใครทางมันอยู่รอมร่อ ในที่สุดก็จะได้อยู่ด้วยกันจริงๆใช่หมายยยยย(´;ω;`)
↑  แล้วทำไมภาพการ์ดเนเนะถึงได้ร้องไห้ล่ะ เอ๊ะ!???

ส่วนการ์ดเมโกะเน่ซัง wow~

ตอนที่ 1 Let's GOOO!!

เช้ามาที่บ้านเอมุจัง เอมุจังที่ตื่นมาแต่เช้าเพื่อจะไปซ้อมการแสดงกับทุกคนเช่นเคย ก็เห็นพี่ๆกำลังพิจารณาเอกสารอะไรก็ไม่รู้เต็มโต๊ะไปหมด
เอมุจังเลยถามพี่ๆว่า “พวกพี่ๆทำอะไรอยู่น่ะ กระดาษเต็มโต๊ะขนาดนี้”
พี่คนโตเคสุเกะ “อ๋อ นี่เป็นข้อมูลผู้มาใช้บริการของเดือนที่แล้วกับผลสำรวจความพึงพอใจน่ะ”
เอมุจังได้ยินดังนั้นก็สนใจ “หนูขอดูด้วยได้ไหม!? หนูก็อยากรู้ว่ามีลูกค้ามากันกี่คน แล้วพวกเขามีความพอใจกันเท่าไหร่!”
พวกพี่ๆก็สอนให้ดูตัวเลขของลูกค้าเทียบจาก 2 เดือนก่อนหน้ากับเดือนที่แล้ว ผลก็คือตัวเลขเพิ่มขึ้นแบบพรวดพราด พี่ๆเลยบอกว่านี่เป็นเพราะ ‘การแสดงครบรอบ 30 ปี’ กลายเป็นที่พูดถึงกันอย่างไม่ต้องสงสัย  ทั้งฟีนิกซ์สเตจที่ดังอยู่แล้วก็ดี นอกจากนี้พอบอกว่า WxS ก็ร่วมแสดงด้วยผลลัพธ์ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ
ผลลัพธ์ดังกล่าว และผลงานก่อนหน้านี้ของ WxS ทำให้พี่ๆในฐานะผู้บริหารก็อยากให้ WxS แสดงในสวนสนุกอย่างนี้ต่อไป แต่……….
พวกพี่ๆมองดูเอมุจังอ่านความเห็นของ ‘การแสดงครบรอบ 30 ปี’ ที่ชื่นชมการแสดงของสึคาสะ กับ เนเนะ แล้วท่าที่ของน้องก็ดูไม่ค่อยจะร่าเริงเหมือนเคย

(…ใกล้จะถึงเวลาที่จะต้องจากกับทุกคนแล้วสินะ มันก็เหงาๆจริงนั่นแหละ แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็อยากบอกลากับทุกคนด้วยรอยยิ้มอยู่ดี)ทิชชู อยู่หนายยย

แล้วฉากก็ตัดมาที่ WxS 4 คนกำลังดื่มด่ำกับความสำเร็จของ ‘การแสดงครบรอบ 30 ปี’ แน่นอนว่าทั้งสึคาสะกับเนเนะเพื่อจะไล่ตามความฝันของตัวเองทั้ง 2 ก็ต้องการประสบการณ์ขึ้นเวทีแบบนี้ยิ่งๆขึ้นไป เมื่อเอมุเห็นท่าทีของทั้ง 2 ก็เสนอว่า “ถ้าพวกเราช่วยกันคิด เดี๋ยวก็อาจจะเจอคำตอบก็ได้นะ” ส่วนรุยที่ไม่ว่ายังไงก็อยากจะไล่ตามความฝันของตัวเองด้วยกันกับเพื่อนๆ ก็เงียบไปและดูเหมือนว่าในที่สุดอีเวนต์นี้ รุยจะเริ่มทำอะไรบางอย่าง (หลังจากรุยได้สร้างปมไว้ เป็น 2 3 อีเวนต์แล้ว)

ตอนที่ 2

อะไรบางอย่างก็คือรุยได้ไปเจรจากับพี่ๆเอมุนั่นเอง
รุยได้ขออนุญาตจากพี่ๆว่าหลังจากนี้ WxS ขอแยกตัวจากสวนสนุกเพื่อทำการแสดงในฐานะฟรีแลนซ์ และแน่นอนว่าด้วยกันทั้ง 4 คน รวมถึงเอมุ
เคสุเกะ “เธอรู้ใช่ไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกมา”
เคสุเกะ “ที่เธอพูดหมายถึงการบอกว่าจะดึงเอาคนของตระกูลผู้บริหารคนนึงออกไปเลยนะ?”
รุย “ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่ายังไงผมก็ยังอยากที่จะชวนให้เอมุไปด้วยกันครับ” ← บทมาขนาดนี้ Yumi-chan นึกว่านายจะเป็นแบนเนอร์
การ์ด 3 ดาวรุย ← (ชุดนี้สีไม่ค่อยฉูดฉาดนะ55 )

ตอนที่ 3

วันรุ่งขึ้น รุยได้บอกเพื่อนๆเรื่องที่ได้ไปเจราจามาเมื่อคืน สึคาสะกับเนเนะก็ดีใจเป็นอย่างมาก สึคาะสะถึงกับเอ่ยปากชม “สมแล้วที่เป็นรุย” แล้วสักพักเนเนะก็เอะใจว่า 
“ถ้าได้เป็นฟรีแลนซ์จริงๆ…แล้วเอมุล่ะ?”
สึคาสะ “จริงด้วย ความฝันของเอมุคือการทำให้วันเดอร์สเตจเต็มไปรอยยิ้ม ถ้าได้เป็นฟรีแลนซ์จริง พวกเราคงแสดงที่นี่ได้น้อยลง ทำให้ความฝันของเอมุไกลออกไปอย่างเลี่ยงไม่ได้…  “
“อื้ม… เพรางั้น ฉันจะแสดงอยู่ที่นี่ล่ะ” พูดแล้วน้องก็ฝืนยิ้ม
รุย “เอมุคุง ก่อนหน้านี้ผมได้ถามเอมุคุงว่าจะเอายังไงต่อไป เอมุคุงก็ตอบว่าจะไม่ไปกับพวกผม…จะอยู่ปกป้องที่นี่”
“รู้แบบนั้น แต่ก็ขอให้ผมพูดอีกซักครั้ง―ไปกับพวกเราไหม?
  •  
  •  
  •  
แล้วภาพคุณปู่เอมุก็ flashback มาー “ไม่ล่ะ ฉันไม่ไป”
รุยคุงก็อึ้งไป สึคาสะก็เงียบอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้น เนเนะก็พยายามช่วยพูดให้เอมุเปลี่ยนใจ ส่วนรุยก็เข้าสู้โหมดทำใจไปแล้ว ฝั่งสึคาสะที่เงียบมาตลอด “………….เอมุ ชั้นน่ะ…..!” พยายามพูดอะไรแต่สุดท้ายก็พูดไม่ออก ท้ายที่สุดเอมุก็ปลอบใจทุกคน “ทุกคน อย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นสิ! พยายามเข้านะ ทำให้ความฝันทุกคนเป็นจริงให้ได้ล่ะ!”
ตัดฉาก หลังจากลากับเอมุ เย็นนั้นระหว่างกลับบ้านด้วยกัน 3 คน เนเนะที่เหมือนยังไม่ยอมตัดใจพยายามคิดหาทางทำอะไรสักอย่าง แต่สึคาสะ…
(เห็นหน้าสึคาสะแบบนี้ครั้งแรกตอนอีเวนต์[天の果てのフェニックスへ](ไปให้ถึง ฟีนิกซ์แห่งขอบฟ้าอันไกลโพ้น) หมายความว่าน้องจะร้องใช่ไหม!!!)
สึคาสะ “มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถ้าเอมุบอกว่าจะไม่ไปกับพวกเรา เราก็คงต้องไปกันแค่ 3 คน”
เนเนะ “เอ๊ะ… เดี๋ยวก่อน ทำไมถึงพูดออกมาง่ายๆอย่างนั้นล่ะ? สึคาสะจะยอมให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ…! อ๊ะ…. ” พอสึคาสะเงยหน้าขึ้นด้วยตาที่เอ่อคลอแล้วพูดขึ้นว่า
”…การลาจากด้วยรอยยิ้ม มันช่าง―เป็นเรื่องที่แสนจะยากเย็นอะไรขนาดนี้”
ขณะนั้นเองจู่ๆก็มีโทรศัพท์มาหารุยจากพี่ๆเอมุ เพื่อแจ้งข่าวว่าตกลงที่จะให้ WxS เป็นฟรีแลนซ์ และนี่คือรีแอคชั่นของสึคาสะกับเนเนะ ก่อนจบตอน

ตอนที่ 4

หลายวันหลังจากนั้น ขณะที่รุยกำลังคุยกับพี่ๆของเอมุ รุยก็ได้บอกพวกพี่ๆตามตรงไปว่า เอมุเลือกที่จะอยู่แสดงที่สวนสนุกเหมือนเดิม พวกพี่ๆได้ยินแบบนั้นก็แปลกใจแล้วก็เหมือนคิดอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นพวกพี่ๆก็ได้แจ้งว่าถ้ายังไงก็อยากให้แสดงโชว์เนื่องใน ‘วันรำลึกการเปิดสวนสนุกฟีนิกซ์วันเดอร์แลนด์’ ก่อนจะกลายเป็นฟรีแลนซ์ได้ไหม รุยก็ได้ตอบว่าจะไปคุยกับทุกคนก่อน
แต่รุยก็คิดว่าทุกคนอยากที่จะแสดงแน่นอน
รุย (โชว์นี้คงจะเป็นโชว์สุดท้ายในฐานะนักแสดงของเวทีวันเดอร์สเตจถ้าอย่างนั้น…ต้องทำให้มันเป็นโชว์ที่เยื่ยมที่สุดแล้วล่ะ)←(ก็คืองัดให้สุดฝีมือเหมือนทุกทีใช่ไหมล่า)
ณ โลกวันเดอร์แลนด์ ท่ามกลางบรรยากาศในเวลาที่ต้องใกล้จะลาจาก ทุกคนก็ตกลงแสดงโชว์สุดท้ายนี้ เอมุเห็นทั้งเพื่อน และพวกมิกุดูเหงาๆ เศร้าๆ เอมุก็ไม่อยากจะลาทุกคนด้วยบรรยากาศแบบนี้ น้องจึงตะโกนออกมาว่า
“อาววววล่ะ! ทุกคน มาทำให้โชว์นี้เป็นโชว์ที่สนุกที่สุดเท่าที่เคยมีมากัน! เพราะงั้น…โชว์สุดท้ายนี้มาแสดงเรื่องนั้นกันเถอะ!”
[旅の一座の物語](เรื่องเล่าคณะละครเร่) โชว์เรื่องแรกที่พวกสึคาสะแสดงกับมิกุกับไคโตะนี่ซัง และท้ายที่สุดทำให้รุยตกลงยอมกลับมาร่วมแสดงกับ WxS หลังจากทะเลาะกันหนักมากตอน main story (การเลือกเอาโชว์เรื่องแรกที่สำคัญ มาเลือกแสดงในครั้งสุดท้ายเช่นนี้มัน~~@oab#sd%)
แต่ตอนจบของโชว์นี้มีว่า “หลังจากนั้นทั้ง 4 คน ก็แสดงโชว์ด้วยกันตลอดไป” ซึ่งในสถานการณ์ที่เอมุจังเลือกที่จะไม่ไปกับทุกคนเช่นนี้ พวกมิกุก็กังวลว่าถ้าแสดงทั้งๆบทนั้น จะไปซ้ำเติมความเศร้ากับพวกเอมุไปอีก 
เมโกะเน่ซังก็ได้เสนอขึ้นว่าในฐานะที่พวกเราเป็นนักแสดง เรามาสร้างโชว์กันเถอะ! โชว์ที่ทำให้เด็กๆพวกนั้นมีรอยยิ้ม โชว์ที่ช่วยสร้างกำลังใจอะไรแบบนั้น!

และเรื่องที่เหล่า virtual singer เลือกกันก็คือ ‘เรื่องเล่าคณะละครเร่‘ เช่นกัน แต่ตอนจบต้องเป็นแบบที่เรียกว่า Happy end สำหรับพวกเอมุ

ตอนที่ 5 (เอมุจังเวอร์ชันปุ๊กปิ๊ก ไทม์!!)

ที่ห้องเอมุ ขณะที่เอมุกำลังลองซ้อมตามบทจนถึงช่วงตอนจบ “หลังจากนั้นทั้ง 4 คน ก็แสดงโชว์ด้วยกันตลอดไป” อ่านบทไปเอมุจังก็เริ่มเศร้าที่จะต้องจากทุกคน จู่ๆพี่สาวก็เข้ามาในห้องชวนดื่มโกโก้ เอมุจังที่แปรงฟันไปแล้วเลยพูดกับพี่สาวว่า งั้นหนูแปรงอีกรอบก็คงไม่มีปัญหาใช่ไหม!?
แน่นอนว่าพี่สาวเค้าแค่เอาโกโก้มาเป็นข้ออ้าง เพื่อมาคุยกับน้องสาวที่ช่วงนี้ดูซึมๆ เอมุก็ไม่ปิดบัง แล้วเล่าเรื่องที่ตัวเองเลือกที่จะไม่ไปกับคนอื่นๆ พี่สาวก็ถามว่า “…เอมุ คิดดีแล้วใช่ไหม? ที่จะไม่ไปกับทุกคน”
เอมุ “……. อืม ยังไงหนูก็ลืมไม่ได้ ตอนที่ได้ดูโชว์กี่เรื่องต่อกี่เรื่องกับคุณปู่ー”

อดีต 10 กว่าปีก่อน

ที่วันเดอร์สเตจ “ปู่คะ ที่นี้คือที่ไหนหลอ?” เมื่อเอมุถามเช่นนั้นปู่ของน้องจึงตอบว่า “ที่นี่ーไม่ได้เป็นทั้งที่ไหน และเป็นได้ทุกๆที่เลยล่ะ!”←(หมายความว่าถึงน้องเลือกจะไปกับเพื่อนๆ ก็เหมือนกับว่าได้แสดงที่วันเดอร์สเตจใช่ไหม คุณปู่!!)
คุณปู่ “ดูเหมือนว่า วันนี้ที่นี้จะกลายเป็นป่าพิศวงแล้วละนะ เอ้า เอมุ มองไปที่เวทีดูสิ”
ซึ่งหลานกับปู่ก็ได็ดูโชว์ “คุณหมีโปโปะในป่าพิศวง” ด้วยกัน (คุณปู่นี่ก็รีแอคชั่นไม่แพ้รุ่นหลานเลย)
หลังจากดูโชว์จบเอมุจังก็พูดขึ้นว่า “โชว์นี่สนุกสุดๆไปเลยเนอะ คุณปู่!”
แล้วคุณปู่จะพูดประโยคต่อมาที่ ความจริงเป็นประโยคที่เคยโผล่มาตั้งแต่ main story แล้ว
คุณปู่ “เวทีนี้น่ะจะเป็นโลกแบบไหนก็ได้ ในการแสดงแต่ละครั้ง “
“บางครั้งก็เป็นโลกป่าดงดิบ บางครั้งก็เป็นโลกบนก้อนเมฆ บางครั้งก็เป็นโลกที่มนุษย์ดึกดำบรรพ์อาศัยอยู่ หรือบางครั้งก็เป็นโลกที่มนุษย์อวกาศอาศัยอยู่… “

“คือวันเดอร์แลนด์ที่สามารถจะเป็นโลกแบบไหนก็ได้ยังไงล่ะ”

↑ ลองเทียบบทพูดเดียวกันของคุณปู่ กับบทของเอมุที่เคยโผล่มาตอน main story 

นอกจากนี้คุณปู่ยังได้พูดอีกว่า “ถ้าเอมุมีรอยยิ้มดีๆบนใบหน้าแล้ว ปู่อยากจะให้เอมุลองดูไปที่โลกรอบตัวของหลานดู”

“แม้ว่าโลกนั้น คงจะไม่ได้มีแต่สิ่งสวยงามอย่างโลกบนเวทีーแต่ปู่ก็มั่นใจว่า สิ่งที่ได้เห็นจะกลายมาเป็นพลังให้หลานอย่างแน่นอน”←(ปู่หมายถึงให้ไปเผชิญโลกกว้างใช่ไหม!! เอมุเห็นไหมขนาดปู่ยังบอกหนูเลยยย)

หลังจากย้อนความเรียบร้อยเอมุก็พูดขึ้นว่า
“และก็เป็นอย่างที่คุณปู่ว่าไว้ วันเดอร์สเตจได้มอบรอยยิ้มให้หนูมากมาย”
“และการที่เพื่อนๆยิ้มแย้มเมื่ออยู่ที่นั่น มันทำให้หนูมีความสุขจริงๆ…”
“เพราะฉะนั้น หนูจึงอยากจะปกป้องวันเดอร์สเตจที่คุณปู่เหลือไว้เป็นของดูต่างหน้า และสวนสนุกฟีนิกซ์วันเดอร์แลนด์ก็เช่นกัน”←(…เอมุ ปู่หนูไม่ได้บอกให้หนูยึดเอาแต่เวทีวันเดอร์สเตจอย่างเดียวนะหนู หนูจะไม่สนใจความจริงข้อนี้ไม่ด้ายยยยยย)
แล้วน้องก็เริ่มพูดปลอบใจตัวเอง…ถึงจะไม่ได้อยู่กับทุกคนก็ไม่เป็นไร แล้วน้ำตาน้องก็เริ่มไหล จากนั้นเลยบอกพี่สาวว่าขอตัวไปแปรงฟันอีกรอบ พลางทำเหมือนว่าตัวเองโอเคดีอยู่
ฉากตัดมาที่พี่สาว ได้มารายงานสภาพเอมุจังให้กับพี่ชายทั้ง 2 เมื่อรู้อย่างนั้นเหมือนพี่ชายทั้ง 2 คนก็จะ….???……..←(คุณพี่ช่วยเด็กๆด้วย นี่ยังไม่ใช่ Happy end เลย TT )

ตอนที่ 6 เรื่องเล่าคณะละครเร่ Another ver.

รุ่งเช้าเมื่อเอมุจังมาถึงวันเดอร์สเตจเป็นคนแรก ขณะกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับตาที่แดงอย่างเห็นได้ชัด ที่ถ้าทุกคนมาเห็นก็จะต้องรู้อย่างแน่นอนว่าน้องผ่านการร้องไห้มา ทันใดนั้นเมโกะเน่ซังก็มาหาแล้วบอกว่าจะให้ WxS ทุกคนมาดูโชว์ที่ virtual singer ทุกคนเตรียมขึ้น
พอเมโกะเน่ซังเห็นหน้าเอมุจัง จึงได้ให้เอมุจังใส่ตุ๊กตามิกุด๋าโย๋ เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นหน้า หลังจากที่พวกสึคาสะมากันครบ เรื่องเล่าคณะละครเร่‘ ก็ได้เวลาเปิดม่าน
โดยนักแสดงครั้งนี้เปลี่ยนบทบาทจากครั้งที่แล้ว
 ‘หัวหน้าคณะ’
‘ตัวตลก’
‘หญิงสาวแห่งท่วงทำนอง’
‘นักเล่นแร่แประธาตุ’
‘ภูต’
คนดำเนินเรื่อง
สึคาสะ → เลน 
เอมุ → มิกุ
เนเนะ → ลูกะ
ไคโตะนี่ซัง(คนดีคนเดิม)
มิกุ(ใส่ตุ๊กตามิกุด๋าโย๋) → รินจัง
มิกุ → เมโกะเน่ซัง
พวกสึคาสะที่ชมการแสดงไปพลางรำลึกความหลังไป และแล้วการแสดงก็ใกล้ถึงฉากจบที่ว่า “หลังจากนั้นทั้ง 4 คน ก็แสดงโชว์ด้วยกันตลอดไป” แต่แล้วเมโกะเน่ซังไม่ได้พูดฉากจบนั้นแต่เล่าเรื่องต่อไปว่า
“ด้วยเหตุนี้ ทั้ง 4 คนก็ได้แสดงโชว์ด้วยกันมาเรื่อยๆ แต่ว่าอยู่มาวันหนึ่ง แต่ละคนก็เจอกับความฝันของตน”
“ไม่ว่าความฝันไหน ก็เป็นความฝันที่สำคัญสำหรับคนคนนั้นเป็นอย่างมาก นั่นทำให้หลังจากนี้ ทั้ง 4 คน ตัดสินใจแยกทางเพื่อเดินตามความฝัน พร้อมกับได้ให้สัญญากันว่า…”
  หัวหน้าคณะ “ถ้าวันใดที่ความฝันทุกคนเป็นจริงแล้ว ตอนนั้นพวกเรามาเจอกันที่นี่นะ แล้วーมาแสดงที่นี่อีกครั้งด้วยกันเถอะ!”
  •  
  •  
  •  
หัวหน้าคณะ “โอ้ーย! กลับมาแล้ว~!”
ตัวตลก “เอ๊ะ!? คนกลุ่มนั้น หรือว่า…! “
หัวหน้าคณะ “หืม? หน้าตาแบบนั้นหมายความว่ายังไง! สตาร์ระดับโลกอุตส่าห์กลับมาตามสัญญาแล้วนะ! ขอความดีใจให้มันมากกว่านี้อีก!”
หญิงสาวแห่งท่วงทำนอง “ความฝันของฉันก็เป็นจริงแล้ว! จะเป็นเพลงก้องโลก ฉันก็ร้องได้แล้วล่ะ!”
นักเล่นแร่แประธาตุ “อะ ฮ่ะฮ่ะ ขอโทษนะ ที่พากันมากะทันหันแบบนี้ เอาล่ะ ที่นี้ก็ได้เวลาแล้วสินะ…”
“…จะสร้างโชว์แบบไหนกันดีล่ะ?”
ตัวตลก “…อะ เฮ้ะเฮ้ะ!”
“โชว์ที่อยากทำกับทุกคน! มีมากมายเต็มไปหมดเลยล่ะ! เพราะงั้น…มาทำด้วยกันเถอะ!”
คนดำเนินเรื่อง “ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้ทั้ง 4 คน จะแยกกันเดินตามความฝัน แต่ก็มีบางครั้งที่ทุกคนจะมารวมตัวกันแสดงโชว์ ณ สวนสนุกที่ตัวตลกได้สร้างขึ้น แล้วคณะละครนี้ก็ร่วมกันแสดงโชว์ด้วยกันตลอดไป”
เอมุ “พวกเราในโชว์ ถึงแม้ต้องบ๊ายบายกันแต่ก็ยังได้แสดงละครด้วยกันอยู่ ถ้าอย่างนั้นไม่แน่ว่า พวกเราเองก็…ไม่สิ สักวันนึง อีกครั้งーอะ เฮ้ะเฮ้ะ เป็นตอนจบที่ วันดาโฮยมากๆเลย”←(นี่ไม่มีหวังให้น้องเปลี่ยนใจแล้วใช่ไหมTT)
“ค่อยยังชั่วที่ใส่ชุดตุ๊กตาไว้ ไม่ยังงั้น ฉันคงー”
เนเนะ “เอมุ…?”
เหมือนเนเนะจะเห็นท่าทางเอมุแปลกไป พอทักไปเอมุก็พูดว่าเป็นโชว์ที่วิเศษมาก พวกเราเองก็ทำโชว์ให้เยี่ยมเท่าโชว์นี้กันเถอะ!

ตอนที่ 7 ทุกคนเตรียมผ้าเช็ดหน้าสัก 10 ผืนนะ

เมื่อ WxS ซ้อมการแสดงเสร็จเตรียมแยกย้ายกลับบ้าน เอมุบอกทุกคนว่าเดี๋ยวพวกพี่ๆจะมาคุยกับเธอที่วันเดอร์สเตจ ให้ทุกคนกลับก่อนได้เลย
หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว…
ในระหว่างนั้นคนอื่นที่กำลังกลับบ้าน เนเนะก็นึกได้ว่าตัวเองลืมสมาร์ทโฟนที่ห้องเปลี่ยนเสื้อ เพราะว่าฟ้าเริ่มจะมืด แล้วก็เดินมายังไม่ได้ไกลมากทั้ง 3 คนเลยเดินกลับไปที่วันเดอร์สเตจอีกครั้ง
แล้วทั้ง 3 คนก็ได้เห็นเข้า
หลังจากเสียน้ำตาไปสัก 10 ลิตรกับฉากนี้ พวกพี่ชายของเอมุก็มาหา แล้วได้คุยกับทั้ง 4 คนว่า “ตอนแรกพวกเราก็คิดว่าจะให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเอมุ แต่เมื่อเอมุตัดสินใจว่าจะไม่ไปกับพวกเธอแล้ว พวกเราก็ได้คุยกันว่าเป็นแบบนี้จะดีจริงๆหรือ คำตอบก็คือไม่ควรให้มันจบแบบนี้”
พี่เคสึเกะ “ーไปเถอะ”
“ตอนนี้เธอยังอยู่ม. ปลาย ใช้เวลานี้ออกไปเรียนรู้โลกภายนอกเถอะนะ”
พี่โชสึเกะ “เอมุ ก่อนที่พวกเราจะได้มาเป็นผู้บริหาร พวกเราก็ไปศึกษาอะไรต่อมิอะไรตั้งมากมาย ถึงแม้ทั้งหมดมันอาจจะไม่ได้ช่วยในเรื่องการบริหาร แต่ส่วนหนึ่งของการเรียนรู้นั่นก็ช่วยหล่อหลอมพวกเราในฐานะผู้บริหารอย่างทุกวันนี้”
แล้วพี่โชสึเกะก็ปิดท้ายว่า “แล้วเธอคิดว่าใครแนะนำพวกเราให้ทำอย่างนั้น?ーปู่ไงล่ะ “
“ถ้าเอมุมีรอยยิ้มดีๆบนใบหน้าแล้ว ปู่อยากจะให้เอมุลองดูไปที่โลกรอบตัวของหลานดู”
“แม้ว่าโลกนั้น คงจะไม่ได้มีแต่สิ่งสวยงามอย่างโลกบนเวทีーแต่ปู่ก็มั่นใจว่า สิ่งที่ได้เห็นจะกลายมาเป็นพลังให้หลานอย่างแน่นอน”
หลังเอมุถูกดันหลังให้ไปเรียนรู้โลกภายนอกขนาดนี้ (ขุ่นพี่่!!!) ก็ถึงฉากสุดท้ายของตอน
พอเอมุตอบตกลงแล้วก็อมยิ้มยาวๆเลย

ตอนที่ 8 เวลาผ่านไป 2 เดือน

WxS ก็แสดง ‘เรื่องเล่าคณะละครเร่’ ใน ‘วันรำลึกการเปิดสวนสนุกฟีนิกซ์วันเดอร์แลนด์’ ตามกำหนดและเหมือนว่าการแสดงของพวกเขาในคราวนี้ฉากจบได้เปลี่ยนไปเป็นแฮปปี้เอนด์ที่ว่า

“และในท้ายที่สุด…ทั้ง 4 คนไล่ตามความฝัน และทำโชว์ด้วยกันตลอดไป!”

โชว์ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จอย่างมาก คนดูทุกคนก็ดูสนุก มีรอยยิ้มกัน เอมุที่เห็นดังนั้นก็ได้ตั้งปณิธานกับตัวเอง
“…ฉันอยากทำให้ที่นี่มีรอยยิ้มให้มากยิ่งขึ้นไปอีก”
“ーหลังจากออกไปเรียนรู้ข้างนอกพร้อมกับทุกคน แล้วทำให้ผู้คนที่มาเยือนที่นี่ยิ้มแย้มได้แล้วละก็ー “
“สักวันหนึ่ง…ฉันก็อยากไปมอบรอยยิ้มให้คนบนโลกในนี้ทุกคนเลย!”
  • หมดแรงกับวิดีโอ…แต่ได้ลองทำดูก็สนุกดี ถ้าทำวิดีโอได้ ต่อไปอาจจะได้แปลเพลงลงยูทูปกับเขามั่ง
  • ชาว Project Sekai ทุกคนพร้อมใจพูดถึงอีเวนต์นี้คำเดียวว่า “บ่อน้ำตาแตก” กันจริงๆ

ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ เจอกันใหม่ Blog ต่อไป
Yumi-chan